สวัสดีครับ คุณ mikepueangruenrom ก่อนอื่น ทางทีมงานต้องขอขอบคุณสำหรับการเข้ามาเยี่ยมชมและสอบถามปัญหามายังทีมงานของ ฟอรั่ม Microsoft Community เวอร์ชั่นภาษาไทย เเละการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ Windows 8/8. 1, 10 เเท้เเละถูกต้องลิขสิทธิ์จากไมโครซอฟท์ ครับ กลับมายังคำถามของคุณ ที่ได้เเจ้งมายังทีมงานของเราว่า.. & Hard disk ของ Windows 10 ทำงาน 100% ตลอดเวลาเลยครับ... นั้น... ทางทีมงานของเราต้องขออนุญาตสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมนิดหนึ่ง ดังต่อไปนี้ นะครับ; 1. ไม่ทราบว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เป็น พีซี หรือ โน๊ตบุ๊ค รุ่น เเบรนด์ อะไร หนือ ว่า เป็นเครื่องประกอบเอง ครับ ได้ใช้งานมานานเเน่ไหนเเล้ว ครับ 2. ไม่ทราบว่า คุณได้ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัส จากเทิดปาร์ตี้ อย่างเช่น McAfee, Kaspersky, Avast, Avira, ESET, Baidu, AVG ฯลฯ นอกเหนือจากโปรแกรม Windows Defender ที่ได้ติดมาพร้อม Windows 8/8. 1, 10 หรือเปล่า ครับ หากมีกรุณา ระบุ ครับ 3. ปัญหาดังกล่าวได้เกิดขึ้นทุกๆ ครั้ง ที่คุณเปิดใช้งาน Windows 8/8. 1, 10 หรือ โปรแกรมอะไร เป็นพิเศษ หรื่อเปล่า ครับ หากมีกรุณาระบุชื่อโปรแกรมดังกล่าวด้วย ครับ 4. ก่อนที่จะเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมา ไม่ทราบว่า คุณได้ดำเนินการเปลี่ยนเเปลงอะไร ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 8/8.
BRTSVC\ เป็นหนึ่งในไวรัสตัวร้ายที่กิน ทรัพยากรขอเครื่องไปเยอะมากๆ สาเหตุการติดไวรัสของแต่ล่ะเครื ่องก็แตกต่างกันออกไป แล้วแต่พฤติกรรมการใช้งาน ของแต่ล่ะคน บางส่วนใช้งานแบบเสี่ยงๆต่อการต ิดไวรัส แต่ไม่รู้ว่าเสี่ยง ที่หนักไปกว่านั้นบางคนรู้ว่าเสี่ยงแต่ก็ยังต้องขอลอง ที่นี้ในเมื่อไวรัสติดมาแล้วทางออกอาจจะไม่ใช่ว่าจะต้องลงวินโดว์ใหม่เสมอไป ก่อนอื่นต้องหาสาเหตุให้เจอก่อนว่าติดไวรัสชนิดไหน (ตัวอย่างคลิปด้านล่าง) เครดิต: แอดมินผึ้ง กลุ่มช่างคอมมือใหม่
แก้ไข Registry >กดปุ่ม Windows _ R >พิมพ์ "Regedit" แล้วกด Enter >ให้ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\Session Manager\Memory Management >มองหา 'ClearPageFileAtShutDown' และเปลี่ยนค่า Value ให้เป็น 1 >Restart Computer อีกครั้ง 2. แก้ไขที่ไดรเวอร์ ให้เปิด Device Manager จากนั้นเลือก Scan for hardware changes เพื่อเช็คไดรเวอร์ใหม่อีกครั้ง 3. ปรับค่า Windows 10 ให้เป็น Best performance >คลิกขวาที่ "Computer" icon แล้วเลือก "Properties" >เลือกที่ "Advanced System settings" >ไปที่ "System properties" >เลือก "Settings" >ให้เลือกที่ "Adjust for best performance" and "Apply". >คลิกที่ "OK" และรีสตาร์ทระบบใหม่อีกครั้ง from:
ให้ดับเบิ๊ลคลิ๊กที่หัวข้อ Superfetch 9. ที่หัวข้อ Startup type:ให้เลือกเปลี่ยนเป็น Disabled ขั้นตอนที่ 5 หาก ปัญหาดังกล่าว ยังไม่ถูกแก้ไขได้ ลองปิดการโปรแกรม Skype ดู ครับ(ฟังดูเหมือนรายเหตุผล เเต่บางท่านสามารถเเก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ด้วยวิธีนี้ นะครับ) นอกจากนั้น ให้ลองทำตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้ เพิ่มเติม หากคุณ มีความคิดเห็นว่า สมควร นะครับ; ขั้นตอนที่ 6 1. กดปุ่ม Windows ( logo)+X 2. แล้งเลือก กดที่ Command Prompt(Admin) 3. หากหน้าจอไดแสดง Do you want to allow the following program to make changes to this computer? ให้กด Yes 4. เมื่อเข้าสู่หน้าจอ Administrator:Command Prompt แล้ว ให้พิมพ์ sfc /scannow 5. รอสักพักหนึ่งจนกว่าการทำงานของ sfc /scannow จนจบ และให้ลองสังเกตว่ามี มีปัญหาหรือไม่มี 6. หลังจากนั้น ให้สังเกตว่า ปัญหาดังกล่าว สามารถกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมไหม นะครับ ถ้าหากปัญหาดังกล่าว ยังไม่ดีขึ้นให้ลอง ทำตามขั้นตอนที่ 7 ขั้นตอนที่ 7 (โดยรวมๆ เเล้วสามารถเเก้ไขปัญหาอาการ Windows 10 ทำงานไม่ปกติ นะครับ) รัน Restore health เพื่อ restore image ล่าสุดของ Operating system 1. กดปุ่ม Windows + X 2.
ซองใส่โทรศัพท์มือถือ - กระเป๋า ห้องเรียนการเงินสำหรับ "วัยทำงาน" (ใช้เงินเป็นเห็นความสุข) | MONEY CLASS เซ้ง คา ร์ แคร์ ใน ปั๊ม แก๊ส ผักไร้สารพิษ วิธีแก้ปัญหา CPU 100% / กิน CPU 100% - YouTube Atvintrend | ATV รถใหม่ ราคาถูก! นำเข้าจากผู้ผลิตรายใหญ่ ผลิตตามมาตรฐานสากล ราคาถูก! ทนทาน! ปกติแล้ว Microsoft มักออกอัปเดตที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการใช้งาน แต่ล่าสุดได้มีแผนออกอัปเดตเวอร์ชันใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพของ Windows 10 แล้วครับ Microsoft เผยว่าอัปเดตเวอร์ชัน 2004 ที่จะออกในเดือนพฤษภาคม 2020 จะเป็นการปรับปรุงด้าน Indexing system ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดการไฟล์บนคอมพิวเตอร์ ให้ค้นหาไฟล์เฉพาะได้รวดเร็ว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของ Windows 10 แล้วการปรับปรุงครั้งนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างไรล่ะ? เชื่อว่าหลายคนอาจเคยประสบปัญหาคอมช้าหรือคอมค้างจาก Disk 100% โดยใช้เฉพาะคนที่ใช้ HDD เพราะมันเร็วไม่พอที่ Indexing system จะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ SSD เร็วพอที่จะไม่เกิดปัญหานี้ เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหา Disk 100% ก่อนหน้านี้จึงเน้นไปที่การลง Windows ใหม่ หรืออัปเกรดไปใช้ SSD แทน แต่หากใครไม่ต้องการอัปเกรดด้วยเหตุผลใดก็ตาม อัปเดตเวอร์ชันใหม่นี้จะช่วยแก้ปัญหาให้เองครับ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Techspot ลาย นิ้ว มือ แฝง อยู่ ได้ กี่ วัน นาฬิกา swiss army รุ่น เก่า วัตถุ มงคล หลวง ปู่ สิงห์ ทอง เลิงนกทา ราคา ช่าง แต่งหน้า เจ้าสาว 2010 relatif
ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ตามลำดับ 1, 2 และ 3 (ทำเช่นเดียวกับการลงโปรแกรม) 5. restart เข้าสู่ mode ปกติครับ วิธีแก้ และ อาการ ของ ไวรัส เป็น service (Generic Host Process for Win32 Services)ที่ใช้ในการโหลดไฟล์ การเรียกใช้ network การที่จะรู้ว่า service svchost ทำงานกับโปรแกรมอะไรอยู่นั้นทำได้ดังนี้ (winXP) 1. เปิด Task Manager ขึ้นมา เลือกที่ tap process >> view >> Select Columns.. แล้วเลือกที่ PID แล้วจำหมายเลข PID ของ svchost 2. จากนั้นก็เปิด Command Prompt ขึ้นมาแล้วพิมพ์ tasklist /svc ก็มาดูที่ PID แล้วดูรายละเอียดจะรู้ว่า svchost ทำงานร่วมกับโปรแกรมใด ถ้าเอามันออกตอน start up ได้ก็ค่อยเอาออก ของแท้เป็น Service Host – Generic Host Process for Win32 Servicesและที่อยู่ของไฟล์คือ C:\WinNT\System32\ หรือC:\Windows\System32\ส่วนไวรัสที่พยายามใช้ชื่อให้ใกล้เคียงกัน เพื่อทำให้เราสับสน... มีตัวอย่างตามด้านล่าง คือ Gaobot viruses คือ aybird viruses.
26 มิถุนายน 2557 9:33 น.
Windows Update ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้วินโดวส์ใช้งานดิสก์ 100% โดยสาเหตุนี้คุณไม่ต้องทำอะไรแค่รอให้วินโดวส์อัปเดทให้เรียบร้อยปัญหาดังกล่าวก็จะหายไปเองจนทำให้วินโดวส์ของคุณสามารถใช้งานได้อย่างปกติ หรือถ้ามันเกิดขึ้นไม่หายคุณสามารถทำการยกเลิกการอัปเดทดังกล่าวไว้ก่อน เป็นอย่างไรบ้างสำหรับทิปดังกล่าวทั้ง 9 วิธีการแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 10 หากคุณมีคำแนะนำที่มีประโยชน์อื่นๆแนะนำคุณสามารถแนะนำเรามาได้ที่หน้าแฟนเพจของเราได้เลย กระทู้คำถาม ปกติใช้ 8. 1 เปลี่ยนเป็น 10 cpu วิ่ง 100% ครับแก้ตามเน็ตแล้วก็ไม่หาย เป็นเฉพาะเวลาเปิดเกมทุกเกมเลยครับ เสปค i7 4710 ram 8 การ์ดจอ gtx 850 m ครับวอนผู้รู้ทีครับ แก้ไขข้อความเมื่อ 0 แสดงความคิดเห็น Run Disk Check ปัญหานี้มักจะเกิดจากมีการพบปัญหากับบางส่วนของพื้นที่บนฮาร์ดิสก์ดังนั้นการใช้เครื่องมือในการตรวจสอบดิสก์ ที่มีมาให้พร้อมวินโดวส์อาจจะสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ด้วยการทำตามขั้นตอนดังนี้ 1. เปิด Windows Explorer ขึ้นมาไปที่ This PC 2. ไปที่ไดร์ฟ C: แล้วคลิกขวาที่ไอค่อนไดร์ฟ C: แล้วเลือก Properties 3. ไปที่แท็บ Tools และเลือก Error Checking แล้วกดปุ่ม Check เพื่อทำการตรวจสอบการทำงานชองดิสก์ รอจนกว่าวินโดวส์ทำการสแกนไดร์ฟจนเสร็จแล้วจะทำการรีบูต 1ครั้งซึ่งหลังจากวินโดวส์บู๊ตกลับขึ้นมากแล้วให้คุณทำการตรวจสอบ Task Manager ดูว่า disk usage ลดลงหรือยังหากยังไม่ลดลงให้ลองวิธีอื่นๆถัดไป 2.